ในช่วงพักเบรกทีมชาติครั้งนี้ สโมสรในลีกเอิงต้องเผชิญกับความท้าทายจากการที่นักเตะถูกเรียกตัวไปรับใช้ทีมชาติ โดยปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนักอย่างไม่ต้องสงสัย น่าสังเกตว่ามีนักเตะ PSG ไม่ต่ำกว่า 18 คนที่ถูกเลือกติดทีมชาติในหลากหลายระดับ ตัวเลขนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของทีมเท่านั้น แต่ยังถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับผู้จัดการทีมอย่างเอนริเก้ในการบริหารจัดการการหมุนเวียนนักเตะอีกด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รายชื่อทีมของปารีส แซงต์-แชร์กแมง ประกอบด้วยนักเตะดาวดังหลายคน เช่น มาร์กินญอส และเอ็มบัปเป้ ซึ่งบทบาทสำคัญของพวกเขาในทีมชาติแสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะมีส่วนร่วมอย่างมากในการแข่งขันระดับนานาชาติที่กำลังจะมาถึงที่น่าสังเกตคือ จำนวนนักเตะของ PSG ที่ถูกเรียกตัวไปรับใช้ทีมชาติมีมากกว่าสโมสรอื่น ๆ ในลีกเอิงอย่างมาก โดยทีมอันดับสองอย่างแรนส์มีนักเตะถูกเรียกเพียง 12 คน ขณะที่สตราส์บูร์กและลียงต่างมีนักเตะถูกเลือก 11 คน
จากมุมมองทางยุทธวิธี ความกังวลหลักของเอนริเก้คือการรักษาความสามารถในการแข่งขันของทีมแม้จะสูญเสียผู้เล่นคนสำคัญหลายคนไปก็ตาม สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อฤดูกาลลีกเอิงกำลังจะมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ ซึ่งความสามัคคีของทีมและการจัดวางแทคติกจะได้รับผลกระทบอย่างมาก เพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้ เอนริเก้อาจต้องมองหาโอกาสให้ผู้เล่นอายุน้อยในทีมได้ลงสนาม หรือปรับเปลี่ยนบทบาทของผู้เล่นที่มีอยู่เพื่อรักษาฟอร์มของทีมในการแข่งขันที่จะมาถึง
ในแง่ของผลงานทางสถิติ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยังคงแสดงให้เห็นถึงฟอร์มโดยรวมที่แข็งแกร่ง แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากการที่นักเตะถูกเรียกตัวไปรับใช้ทีมชาติก็ตาม สถิติระบุว่าทีมยังคงรักษาอัตราการผ่านบอลสำเร็จไว้ที่ 89% และมีอัตราการเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูจากการยิงเข้ากรอบอยู่ที่ประมาณ 45% ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการโจมตี อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้อาจได้รับผลกระทบจากการขาดหายไปของผู้เล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับคู่แข่งที่แข็งแกร่ง
ในขณะเดียวกัน การเรียกตัวนักเตะที่ส่งผลกระทบต่อสโมสรต่างๆ เช่น แรนส์, สตราสบูร์ก และลียง จำเป็นต้องได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิด ในบรรดาผู้เล่น 12 คนที่ถูกเรียกตัวจากแรนส์ ฟอร์มการเล่นของผู้เล่นคนสำคัญจะมีผลโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขันของทีมในลีกเอิง สตราสบูร์กและลียงเผชิญกับความท้าทายที่คล้ายคลึงกัน โดยต้องปรับตัวสภาพร่างกายของผู้เล่นหลังพักเบรกทีมชาติอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้จัดการทีมแต่ละคนต้องพิจารณา
ในช่วงเวลานี้ สื่อสังคมออนไลน์ยังได้เห็นการถกเถียงกันอย่างคึกคักเกี่ยวกับการเรียกตัวนักเตะทีมชาติ โดยเฉพาะแฟนบอลของปารีส แซงต์-แชร์กแมงที่ออกมาแสดงความกังวลและความคาดหวังของพวกเขา แฟนบอลได้ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลเพื่อเปิดตัวแฮชแท็ก #Enrique'sHeadache เพื่อถกเถียงกันว่าทีมควรรับมือกับความท้าทายที่กำลังจะมาถึงอย่างไร แฟนบอลบางคนถึงกับพูดติดตลกว่า "จะดีแค่ไหนถ้าผู้เล่นที่ถูกเรียกตัวทั้งหมดสามารถอยู่ในปารีสได้!"
ดังที่นักวิจารณ์ผู้มีประสบการณ์ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า: "ฟุตบอลไม่เคยเป็นเกมสำหรับผู้ชายสิบเอ็ดคน มันคืออะดรีนาลีนของเมือง" นี่เป็นการถ่ายทอดความกระตือรือร้นและความคาดหวังที่แฟนๆ มีต่อทีมของพวกเขาได้อย่างเหมาะสม สำหรับเอนริเก้ ความท้าทายสำคัญข้างหน้าคือการสร้างจิตวิญญาณการต่อสู้ของทีมขึ้นมาใหม่หลังจากการพักเบรกทีมชาติครั้งนี้
โดยรวมแล้ว สถานการณ์ของปารีส แซงต์-แชร์กแมงได้เพิ่มความน่าสนใจอย่างมากให้กับศึก ลีกเอิง ทั้งหมดอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อการแข่งขันระดับนานาชาติเริ่มขึ้นทีละน้อย ผลงานของนักเตะจะส่งผลโดยตรงต่อทิศทางอนาคตของสโมสร เอนริเก้จำเป็นต้องวางแผนรับมืออย่างรวดเร็วเพื่อให้ปารีสยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาล แฟนบอลจะยังคงติดตามความเคลื่อนไหวเหล่านี้อย่างใกล้ชิด โดยคาดหวังว่าทีมของพวกเขาจะค้นพบโอกาสใหม่ๆ ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้


ปัญหาของเอนริเก้: ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เผชิญกับความท้าทายในการมีผู้เล่น 18 คนถูกเรียกตัวไปรับใช้ทีมชาติ ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดในบรรดาทีมลีกเอิง